บทความ-ข่าวสาร

"รอยพญานาค" ที่เมืองคำชะโนด

".......รอยปรากฏบนพื้น "ศาลาการเปรียญ" เชื่อว่าเป็น รอยพญานาค ปรากฏเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2548 ที่เมืองคำชะโนด จ.อุดรธานี ที่เคยมีประวัติว่า ผีมาจ้างหนังไปฉาย และเป็นข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เมื่อ10 กว่าปีที่ผ่านมา
.........หากจะเอ่ยถึง “พญานาค” สัตว์ในเทพนิยาย ซึ่งทุกคนคงนึกถึงเมืองแห่งพญานาค คือ “จังหวัดหนองคาย” ที่มี “บั้งไฟพญานาค” เป็นปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้นในวันคืนออกพรรษาของทุก ๆ ปี จนเป็นที่โด่งดังขึ้นชื่อลือชาไปไกลยังต่างประเทศ ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ หลั่งไหลเดินทางไปพิสูจน์ความลี้ลับเพื่อหาคำตอบกันเป็นจำนวนมาก
.........“ปริศนา” หรือ “ตำนาน” ความเชื่อเกี่ยวกับ “พญานาค” มิได้เกิดขึ้นเฉพาะที่จังหวัดหนองคายเท่านั้น แต่มีความเชื่อมโยงไปยังพื้นที่หรือแหล่งน้ำที่สำคัญหลายแห่ง ในจังหวัดตามลุ่มน้ำโขงในภาคอีสาน รวมไปถึงที่“เมืองคำชะโนด” ซึ่งอยู่ใน อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เป็นอีกแห่งหนึ่งที่มีเรื่องราวตำนานท้องถิ่นเกี่ยวกับ “พญานาค” นั่นคือ “วังนาคินทร์” นอกจากนี้ “คำชะโนด” ยังบ่งบอกถึง ความลี้ลับและเรื่องเล่าขานต่าง ๆ อีกมากมายที่หลายอย่างไม่สามารถพิสูจน์ได้

".......“ เกาะคำชะโนด” ที่กล่าวถึงนี้มีลักษณะเป็นทุ่งนาโล่งกว้าง มีลักษณะเป็นป่าดงดิบประมาณ 20 กว่าไร่ โดยมีต้นไม้หลักคือ ไม้ชะโนด ลักษณะเป็นต้นไม้ที่มีลักษณะเป็นลูกผสมระหว่างต้นตาล ต้นมะพร้าว และต้นหมาก ลำต้นสูงโดดเด่นเป็นสง่า “เมืองคำชะโนด” หรือ “วังนาคินทร์” เป็นที่ตั้งของ “วัดสิริสุทโธ” มีศาลาที่ประดิษฐานของ “เจ้าปู่ศรีสุทโธ” หรือ “สุทโธนาค” และ “เจ้าย่าปทุมมา” กลางป่าคำชะโนดมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งในตำนานนั่นคือ ทางขึ้นลงระหว่างเมืองบาดาลกับโลกมนุษย์ของเหล่าพญานาคที่พระอินทร์ประทาน ให้
.........สำหรับเหตุที่เชื่อว่าบ่อน้ำแห่งนี้เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากน้ำในบ่อน้ำแห่งนี้ไม่เคยแห้งลง โดยจะรักษาระดับอยู่เท่าเดิมตลอดทั้งปี และเคยมีคนเอาไม้ไผ่ 2 ลำมาต่อกันหยั่งลงไปดูความลึกของน้ำแต่หยั่งไม่ถึง จึงเชื่อกันว่า น้ำในบ่อนี้จะไปทะลุที่สะดือแม่น้ำโขง หรือบริเวณ วัดอาฮงศิลาวาส จ.หนองคาย
ซึ่งในปัจจุบัน “วังนาคินทร์” แห่ง นี้ ยังมีความพิเศษอีกประการหนึ่งคือ มีลักษณะเป็นเกาะที่ลอยน้ำ แม้รอบ ๆ เกาะรวมถึงทางเดินพญานาคจะถูกน้ำท่วม แต่ “เมืองคำชะโนด” แห่งนี้ไม่เคยถูกน้ำท่วมเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเมื่อน้ำขึ้นเกาะคำชะโนดแห่งนี้ก็จะลอยตามน้ำไปด้วย

"....... นอกจากนี้ บริเวณวัดสิริสุทโธ ยังเคยมีรอยซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็น "รอยพญานาค" ปรากฏให้เห็นบ่อยครั้ง โดยเกิดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2527 มีรอยพญานาคขนาดกว้างประมาณ 60-70 ซม. คล้ายลักษณะงูเลื้อย เกิดขึ้นทั่วบริเวณวัด ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2537
.........และครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในวันขึ้น 9 ค่ำเดือน 11 ปี พ.ศ. 2549 โดยเกิดขึ้นรอบศาลาวัด ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกอีกเรื่องหนึ่งที่ชาวบ้านละแวกนี้เล่าให้ฟัง เมื่อปี 2532 “ป่าคำชะโนด” กลายเป็นสถานที่เลื่องชื่อชั่วข้ามคืน นั่นเพราะเรื่องเล่าที่ว่ามี “ผีจ้างหนัง” โดยเมื่อบริษัทหนังเร่ชื่อก้องแห่งภาคอีสาน ถูกว่าจ้างจากใครคนหนึ่ง ให้ไปฉายหนังกลางแปลงในหมู่บ้านวังทอง ด้วยจำนวนเงิน 4,000 บาท
.........แต่มีข้อแม้คือ ต้องฉายจบแค่ตี 4 ของวันใหม่ และให้ออกจากหมู่บ้านก่อนฟ้าสาง โดยห้ามหันหลังกลับมามอง พอหนังเริ่มฉายตั้งแต่หัวค่ำ ตอนนั้นไม่มีผู้คนมาดูเลย พอ 3 ทุ่ม กลับมีคนมาดูจำนวนมาก และที่แปลกก็คือ ผู้หญิงจะนุ่งขาวห่มขาวนั่งอยู่ด้านหน้า ส่วนผู้ชายใส่เสื้อผ้าสีดำนั่งอีกข้าง และทั้งหมดก็นั่งกันสงบเรียบร้อยเหมือนไม่มีการเคลื่อนไหวตัวเลย ยิ่งกว่านั้นไม่ว่าจะฉายหนังอะไร ก็ไม่มีการส่งเสียงเอะอะเหมือนหนังกลางแปลงทั่วไป


"....... รวมทั้งในงานไม่มีร้านขายของกินของใช้ แม้แต่ร้านขายบุหรี่ก็ไม่มี พอถึงตี 4 ก็พบว่า ผู้คนที่นั่งดูหนังอยู่ทั้งหมดได้หายไปอย่างรวดเร็ว และพอฟ้าสางกลับพบว่า สถานที่ฉายหนัง เป็นพื้นที่ป่าโล่ง ไม่มีบ้านเรือนคนอยู่เลย” คำเล่าขานของเจ้าของบริษัทหนังแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี กล่าว

........นายพงษ์ธวัช ทองพูลสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านดุง จ.อุดรธานี กล่าวว่า จากตำนานความเชื่อที่ถูกเล่าขานต่อกันมาหลายชั่วอายุคนของชาวบ้านดุง กลายมาเป็นพิธีการของสังคมระดับอำเภอ เป็นประเพณีที่ต้องปฏิบัติและสืบทอดความคงอยู่ ของการเคารพนับถือ “เจ้าปู่พญาศรีสุทโธ” ที่ เชื่อว่าเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ จะช่วยดลบันดาลให้พ้นทุกข์ภัย เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านดุงให้ดำรงตน เป็นคนใจบุญสุนทาน ครองตนครองเรือนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม และก่อเกิดเป็นประเพณีการบวงสรวง “เจ้าปู่พญาศรีสุทโธ” ขึ้นเป็นประจำทุกปีเรื่อยมา


ที่มา - เดลินิวส์
__________________
บูชาวัตถุมงลคสายพญานาค-ของทนสิทธิ์-เหล็กไหล
http://tantipala.blogspot.com